
วันที่ 28 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระสงฆ์รูปหนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีชื่อว่า พระสมฤทธิ์ รัตนญาโณ เป็นเจ้าอาวาสวัดบุญญพลัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวลี้ลับมองไม่เห็นของถ้ำหลวงหรือถ้ำนางนอนพร้อมเล่าเรื่องราวชวนขนหัวลุกว่า ตนเองนั้นเคยเข้าไปในถ้ำแห่งดังกล่างมา 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่เข้าไป คือปี 2558 โดยได้เข้าไปทำพิธิทางศาสนาเพราะมีลูกศิษย์คนหนึ่งที่เชียงรายโดนวิญญาณผีเข้าสิง

จากคำบอกเล่าของพระดังกล่าวว่า วิญญาณบอกให้เข้าทำพิธีในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ให้ไปแผ่กุศลให้ จากนั้นพระรูปนี้เลยเข้าไป หลังจากนั้นเข้าไปในปากถ้ำเดินเข้าไปสองกิโลเมตร พระบอกว่าข้างไม่มีสิ่งมีชิวิต มืดสนิท ต้องใช้ไฟฉาย สภาพก็ชื่นแฉะ คดเคี้ยว บางส่วนเป็นแอ่งกะทะ หน้าฝนจะมีน้ำซึมเข้ามาเรื่อยๆแต่ข้างในนั้นอากาศมีเข้ามาเพียงพอ
พระยังบอกว่ามีสิ่งมองไม่เห็น มีสิ่งลี้ลับอยู่ในถ้ำอย่างแน่นอนเพราะเวลาเข้าไปจะมีความรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองตลอดเวลา โดยพระท่านบอกว่าข้างในนั้นมีวิญญาณหลายดวงในอยู่ถ้ำ พร้อมทั้งบอกว่าการที่ยังหาเด็กไม่เจอเพราะน่าจะเป็นพลังงานอะไรบางอย่างมาบดบัง มันเป็นพลังงานที่มองไม่เห็นมาบดบัง พร้อมบอกว่า การที่เด็กทั้งสอง 13 ยังหาตัวไม่เจอเพราะว่ามีเด็กในกลุ่มคนหนึ่งที่ตัวโตและอายุเยอะที่สุดไปหลบหลูเจ้าที่เจ้าทาง มีการไปหลบหลู่เจ้าแม่นางนอนที่อยู่ตรงปากทางเข้าถ้ำ

พระรูปดังกล่าวที่เคยเข้าไปถ้ำหลวงยังบอกว่า นี่คือการสั่งสอนจากเจ้าที่เจ้าทาง จากการที่ไปท้าทายลองดีกับเจ้าแม่ ซึ่งจริงๆแล้วเด็กๆอาจไม่ไกลจากบริเวณที่พบรองเท้าแตะ เชื่อว่าทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันพระผ่านพ้นไปแล้ว 13 ชีวิตจะได้เจอทางออก ทั้งหมดเป็นแค่สั่งสอน
ชาวเน็ตมีการแชร์




ขอให้เจอเด็กๆโดยเร็ว
No comments:
Post a Comment